บทที่ 21 7.3 สมรสพระราชทาน
เสียงซุบซิบนินทาจากบรรดาฮูหยินของเหล่าขุนนางและคุณหนูแต่ละตระกูลดังกระฉ่อนเป็นระยะ พวกนางเหล่านั้นมองจางเซียวหรูพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน สร้างความเจ็บแค้นใจให้กับจางเซียวหรูยิ่งนัก ครั้นนางหันหน้าไปทางหยางเต๋อเฟยและหานอี้ แต่กลับได้รับเพียงความเมินเฉยกลับมาเท่านั้น
หลังจากคุกเข่าโขกศีรษะขออภัยตามที่อีกฝ่ายต้องการแล้ว จางเซียวหรูไม่สนใจผู้ใดทั้งนั้น นางเดินดุ่มๆ กลับไปนั่งดังเดิม ใจของนางโกรธแค้นเคืองยิ่งนัก ต้องมีสักวันที่นางจะเหยียบย่ำจางอวิ๋นซีได้ ทุกความอัปยศที่นางได้รับจางอวิ๋นซีจะได้รับคืนเป็นร้อยเท่าพันทวี!
“เอาล่ะ หลังจากเรื่องร้ายๆ เพิ่งผ่านพ้นไป คราวนี้ข้าเองก็อยากประกาศข่าวดีต่อหน้าพวกเจ้าทุกคน ให้พวกเจ้าทุกคนรับทราบทั่วกัน” หานไทเฮาทรงกล่าวเสียงดังกังวานใส ต่างจากพระสุรเสียงยามตวาดใส่
จางเซียวหรูยิ่งนัก
หานไท่หยางไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นเรื่องบังเอิญ สตรีนั้นมากเล่ห์ร้อยมารยา นางอาจใช้มารยาจนทำให้ทุกคนหลงเชื่อว่าตัวนางเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ได้
“พวกเจ้าทุกคนก็ทราบกันดี ว่าเรากับหลิวฮองเฮาและจางฮูหยินนั้นมีความสัมพันธ์อันดีมาช้านาน อีกทั้งบรรดาหลานชายของเราต่างก็ไร้ซึ่งพระชายาเคียงกาย พระชายาที่จะคอยดูแลพวกเขา ตอนนี้หลานชายของข้าแต่ละคนต่างก็ถึงวัยออกเรือนแล้ว ข้าจึงตัดสินใจจัดสมรสพระราชทานให้กับหานไท่หยาง หลานชายของข้าซึ่งเป็นโอรสจากฮองเฮาและจางอวิ๋นซี บุตรสาวคนรองใต้เท้าจาง” กล่าวจบ หานไทเฮาทรงหันมามองหานไท่หยางที่นั่งนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ แต่ทว่าแววตาของหานไท่หยางนั้นจับจ้องจางอวิ๋นซีที่เผลอทำจอกชาหล่นลงพื้น
เพล้ง!
จางอวิ๋นซีเผลอทำจอกชาหล่นลง น้ำชาหกกระเซ็นเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนาง แต่ทว่านางหาได้ให้ความสนใจนัก ตอนนี้เรื่องที่น่าตกตะลึงสำหรับนางคือการมอบสมรสพระราชทาน!
และไม่ใช่ใคร แต่เป็นหานไท่หยางเจ้าอ๋องหน้าตายนั่น!
“เสด็จแม่สายพระเนตรเฉียบคมนักพะยะค่ะ บุตรสาวคนรองใต้เท้าจางนั้นฉลาดและมีความสามารถ อีกทั้งเป็นบุตรีฮูหยินเอก ส่วนไท่หยางนั้นเป็นอ๋องมีความสามารถ หากมอบสมรสให้พวกเขาเห็นจะเป็นการดีนัก” หานฮ่องเต้ทรงเห็นด้วยกับพระมารดาเช่นเดียวกับหลิวฮองเฮา
จางอวิ๋นซีลุกขึ้นยืน นางประสานมือโค้งศีรษะเล็กน้อย
“อะ เอ่อไทเฮาเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นด้วยเพคะ!” จางอวิ๋นซีโพล่งขึ้นมาเสียงดัง จะให้นางมาแต่งงานกับคนแบบนี้หรือ? ฝันไปเถิด หากเป็นอ๋องใหญ่อย่างหานอี้ก็ว่าไปอย่าง
“ทำไมล่ะ” หานไทเฮาทรงร้อนใจ
“หม่อมฉันยังไม่พร้อมเพคะ อีกอย่างท่านอ๋องไท่หยางก็ไม่เต็มใจอภิเษกกับหม่อมฉันอยู่แล้ว ขอทรงโปรดพิจารณาอีกครั้งเถิดเพคะ” จางอวิ๋นซีคุกเข่าวิงวอน นางประหม่ายิ่งนักหากต้องมาแบกรับสมรสพระราชทานนี้
จางเยี่ยนไม่พอใจจางอวิ๋นซีนัก นางรู้หรือไม่ว่าการแต่งงานกับหานไท่หยางนั้นหมายความว่าในอนาคตนางอาจกลายเป็นพระชายารัชทายาทและฮองเฮาแคว้นหาน! ไม่รู้ว่านางฉลาดเกินไปหรือป่วยจนโง่ลืมนึกถึงความสำคัญของครอบครัวไปแล้ว!
“ขออภัยไทเฮา บุตรสาวของกระหม่อมไม่รู้ความ...”จางเยี่ยนก้มหน้าเอ่ยด้วยความหวาดกลัว พลางมองบุตรสาวคนรองอย่างตำหนิ ตั้งแต่เกิดมานางก็ไม่เคยได้ดั่งใจผู้เป็นบิดาอย่างบุตรสาวคนโตทุกอย่าง เพลานี้ยังคิดตัดสินใจดั่งคนโง่ด้วยการปฏิเสธการแต่งงานกับหานไท่หยางอีก!
“เจ้าคิดอย่างไรกันอาหยาง” หานไทเฮาทรงถามหลานชาย
หานไท่หยางมองจางอวิ๋นซีที่นั่งคุกเข่าตัวสั่น นัยน์ตาปรากฏ
ประกายเจ้าเล่ห์ไหววูบขึ้นมาชั่ววูบหนึ่ง หานไท่หยางกล่าวตอบเสด็จย่าของตน
“ขอบพระทัยเสด็จย่าพะยะค่ะ อันที่จริงหลานเองก็เห็นซีเอ๋อร์มาตั้งแต่นางยังเด็ก รักชอบพอนางพอสมควร หลานยินดีน้อมรับสมรส
พระราชทานครั้งนี้พะยะค่ะ” หานไท่หยางประสานมือน้อมรับพระบัญชา
อีตาอ๋องบ้า! จางอวิ๋นซีโวยวายในใจ นางมองหานไท่หยางพลางแยกเขี้ยวขู่ กล้าดีอย่างไรมาคิดแต่งงานกับนาง กล้าดีอย่างไร!
“แต่หม่อมฉันไม่เห็นด้วยเพคะ! หม่อมฉันกับท่านอ๋องเพิ่งจะเจอกันไม่นาน จะให้แต่งงานกันเลยได้อย่างไร?” จางอวิ๋นซีแย้ง
ไท่ฮูหยินเดินเข้าหาหลานสาว นางกระซิบบอกอีกฝ่ายเบาๆ
“การปฏิเสธสมรสพระราชทาน อาจทำให้ตระกูลเดือดร้อนได้ หลานย่าเจ้าตรองดูหน่อยเถิด”
“เจ้ารังเกียจข้าหรือ?” หานไท่หยางหันหน้ามาถามนาง
ยังมีหน้ามาถามอีกนะ! ใครเขาอยากแต่งงานกับผู้ชายหน้าตายกัน!
การปฏิเสธสมรสพระราชทานเช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีแน่ หรูหรงจึงเข้ามากระซิบข้างใบหูของจางอวิ๋นซี
“คุณหนูเจ้าคะ หากคุณหนูตอบตกลงแต่งงานกับท่านอ๋อง มารดาของท่านก็จะไม่ถูกคนพวกนั้นรังแกง่ายๆ อีก ท่านกับฮูหยินใหญ่ก็ไม่ต้องทนให้ใต้เท้าจางโขกสับรังแกแบบนี้ด้วย ท่านคิดให้ดีนะเจ้าคะ” หรูหรงเตือนในฐานะที่นางอยู่รับใช้จางอวิ๋นซีมาตั้งแต่ยังเด็ก นางทนไม่ได้ที่จะเห็นจางอวิ๋นซีกับจางฮูหยินต้องตกอยู่ใต้อำนาจของจางเยี่ยนและฮูหยินรองหลี่อีกต่อไป หากเจ้านายของนางได้รับการแต่งตั้งเป็นพระชายาเอกผ่านสมรสพระราชทาน ต่อไปก็จะไม่มีใครมารังแกพวกนางได้อีก
จางอวิ๋นซีคิดตามหรูหรงทุกประโยค หากนางเป็นพระชายาเอกของหานไท่หยาง อย่างน้อยก็อยู่แบบต่างคนต่างอยู่ นางกับมารดาก็สุขสบายบนอำนาจกองเงินกองทอง ไม่ต้องมาทนให้คนอื่นโขกสับรังแกแบบนี้ อีกทั้งนางอาจจะได้ทำความปรารถนาให้เป็นจริงตามที่ต้องการ
ความปรารถนาที่จะก่อตั้งโรงพยาบาลในยุคนี้!
จางอวิ๋นซีตอบรับสมรสพระราชทานนี้ “สมรสพระราชทานไม่อาจปฏิเสธได้ หม่อมฉันโง่เขลาเองเพคะที่ไม่ไตร่ตรองก่อนพูด หม่อมฉันน้อมรับการสมรสพระราชทานครั้งนี้เพคะ”
หานไท่หยางดูอีกฝ่ายก็รู้ว่านางฝืนใจรับสมรสพระราชทานครั้งนี้ นางไม่ยินดีตอบรับเป็นแน่หากไม่มีข้อแลกเปลี่ยนที่นางต้องการ ถือว่าเขากับนางต่างได้ประโยชน์ทั้งคู่ ตัวเขาเองก็จะได้ไม่ต้องมีหญิงอื่นจากต่างบ้านต่างเมืองมาวุ่นวายให้ลำบากใจ ส่วนนางเขาก็จะจับสังเกตพฤติกรรมได้ง่ายดายมากขึ้นว่าเหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
